ผิวแลดูขาวกระจ่างใสด้วยเจลเนื้อขาวมุก ส่วนผสมเอกสิทธิ์ที่ให้ความชุ่มชื่น พร้อมส่วนผสมที่จะช่วย ให้จุดด่างดำแลดูลดเลือนลง ผิวแลดูเรียบเนียนสม่ำเสมอยิ่งขึ้น พร้อมทำให้รูขุมขนแลดูกระชับยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันก็ช่วยทำให้ผิวแลดูสว่างสดใสขึ้น คุณประโยชน์ ส่วนประกอบ วิธีใช้ ผิวดูสดใสขึ้น ช่วยให้สีผิวที่ไม่สม่ำเสมอแลดูเรียบเนียนขึ้น พร้อมช่วยให้จุดด่างดำแลดูลดเลือนลง รูขุมขนแลดูกระชับขึ้น ช่วยทำให้ผิวหน้าแลดูเนียน นุ่มและกระจ่างสดใส ผิวดูเปล่งประกายและชุ่มชื่นด้วยส่วนผสมของสารสกัดจาก Tremellas Fuciformis
LUMINESCE™ หรือ ลูมะเนส หรือที่หลายคนเรียกกันว่า ลูมิเนสส์ คือ ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวพรรณ ภายใต้การจัดจำหน่าย ของบริษัท เจอเนสส์ โกลบอล จำกัด (Jeunesse Global) โดยใช้เทคโนโลยี ที่มีส่วนผสมสกัดจาก “สเต็มเซลล์เต็มวัย” เรียกว่า... Human Growth Factors มากกว่า 200 หน่วย เป็นสื่อกลางธรรมชาติ ที่ส่งผลให้ชั้นผิวสร้างโปรตีน คือ คอลลาเจนและอีลาสติน ผู้คิดค้นผลิตภัณฑ์ LUMINESCE™ คือ ดร.นาธาน นิวแมน ศัลยแพทย์ความงามชื่อดัง ระดับโลก ผู้เชี่ยวชาญด้านสเต็มเซลล์ และเป็นที่ปรึกษาให้กับ Jeunesse Global
ผลิตภัณฑ์ LUMINESCE™ มีทั้งหมด 9 รายการ กดเลขรายการที่ต้องการทราบข้อมูลได้เลยค่ะ LUMINESCE™ Youth Restoring Cleanser กด 001 -------- LUMINESCE™ Cellular Rejuvenation serum กด 002 -------- LUMINESCE™ Daily Moisturizing Complex กด 003 -------- LUMINESCE™ Advanced Night Repair กด 004 -------- LUMINESCE™ Ultimate Lifting Masque กด 005 -------- LUMINESCE™ Essential Body Renewal กด 006 -------- LUMINESCE™ Miracle Moisturizing Shower Gel กด 007
ผลิตภัณฑ์ Luminesce ผ่านการรับรองจาก อย. และ
ฮาลาล (Halal)

คุณสามารถตรวจสอบเลขที่รับแจ้ง อย. ด้วยตัวเองได้ที่นี่นะคะ

http://porta.fda.moph.go.th/FDA_SEARCH_ALL/MAIN/SEARCH_CENTER_MAIN.aspx

กด 3/1 ดูต่อค่ะ
ตรวจสอบการอนุญาต
porta.fda.moph.go.th
เรามาดูตัวอย่างผลการใช้ผลิตภัณฑ์ LUMINESCE™ กันค่ะ ผลการใช้ ชุดพื้นฐานผิวหน้า 4 รายการ - LUMINESCE™ Youth Restoring Cleanser - LUMINESCE™ Cellular Rejuvenation serum - LUMINESCE™ Daily Moisturizing Complex - LUMINESCE™ Advanced Night Repair กด P1 -------- ผลการใช้ LUMINESCE™ Ultimate Lifting Masque กด P2 -------- ผลการใช้ LUMINESCE™ Essential Body Renewal กด P3 -------- ผลการใช้ LUMINESCE™ Miracle Moisturizing Shower Gel กด P4 -------- ผลการใช้ LUMINESCE™ Flawless Skin Brightener กด P5
คำถามที่พบบ่อย 1. เป็นสเต็มเซลล์จากไหนและได้ผลจริงหรือ? ตอบ : เป็นสเต็มเซลล์จากมนุษย์ แต่ไม่ได้นำสเต็มเซลล์มาใส่ในผลิตภัณฑ์เนื่องจากสเต็มเซลล์ไม่สามารถนำมาทาผิวได้ แต่ ดร. นาธาน นิวแมน ได้ทำการค้นหาสเต็มเซลล์ที่ดีที่สุดในร่างกายมนุษย์ซึ่งจะพบได้ในชั้นไขมันของมนุษย์ด้วยการใช้ไซรินจ์พิเศษ ในภาวะปลอดเชื้อดึงเอาเนื้อเยื่อไขมันและสเต็มเซลล์กลุ่มที่มีความแข็งแรงออกมาจากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการคัดแยกสเต็มเซลล์อีกครั้งด้วยการ ปั่นแยกโดยเครื่องระบบหมุนเหวี่ยง จากศูนย์กลาง จากนั้นนำสเต็มเซลล์มาเพาะเลี้ยง
และให้สารอาหารเพื่อการเจริญเติบโต ในขณะที่เซลล์กำลังเติบโตจะแบ่งตัวมากขึ้น แบบทวีคูณในเวลาอันรวดเร็ว ในขณะที่แบ่งตัวจะคายสารที่เรียกว่า Growth Factors ออกมา และนี่คือส่วนผสมที่สำคัญในผลิตภัณฑ์ LUMINESCE™
3. มีสารกันเสียหรือไม่? ตอบ : ผลิตภัณฑ์นี้มีสารกันเสียจากธรรมชาติ ที่จำเป็นต้องมีสารกันเสียจากธรรมชาติ เพราะว่ามันเป็นผลิตภัณฑ์มีชีวิตไม่อย่างนั้นมันจะอยู่ได้แค่สองวันเท่านั้น แต่ไม่มีสารกันเสียทางเคมี ทุกอย่างในผลิตภัณฑ์มาจากธรรมชาติ
4. ควรเก็บรักษาอย่างไร? ตอบ : หลีกเลี่ยงที่ร้อน เก็บในที่เย็นหรืออุณหภูมิห้อง เพื่อที่ค่า pH หรือคุณภาพของมันจะได้ไม่เปลี่ยนแปลงไป แล้วผลิตภัณฑ์จะยังได้ผลอยู่ไหมถ้าคุณไม่ได้เก็บรักษาไว้แบบนี้? ได้แต่อาจไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร ขึ้นอยู่กับว่ามันโดนความร้อนมากน้อยแค่ไหน
5. ใช้นานแค่ไหนถึงจะเห็นผล? ตอบ : เนื่องจากการทำงานของ LUMINESCE™ จะแทรกซึมไปที่ผิวและเซลล์ มันต้องใช้เวลาเพื่อให้กระบวนการต่างๆ ส่งผลในร่างกายคุณ ถ้าเราเห็นผลทันทีก็จะเป็นการเปลี่ยนแปลงเฉพาะผิวด้านบนที่เกิดจากการผลัดเปลี่ยนเซลล์ ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ภายใน 1 สัปดาห์ อย่างไรก็ดีผลที่ถาวรและยาวนานกว่าจะเกิดขึ้นในชั้นที่ลึกกว่าใต้ผิวหนังซึ่งต้องใช้เวลา 3 เดือน ดังนั้นถ้าคุณอยากจะลองใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ในระยะยาวคุณต้องทดลองใช้อย่างน้อยที่สุด 3 เดือน
6. การนำสเต็มเซลล์มาใช้ถูกกฎหมายหรือไม่? ตอบ : ในส่วนของผลิตภัณฑ์ LUMINESCE™ มีการนำเข้าและตรวจสอบ โดยผ่านการรับรองจาก อย. เรียบร้อยแล้ว ในส่วนของกฎหมายประเทศสหรัฐอเมริกา บารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ประกาศยกเลิกกฎหมายการห้ามทำวิจัยสเต็มเซลล์ตัวอ่อนมนุษย์และการห้ามให้ทุนสนับสนุนงานวิจัยเรื่องดังกล่าวจากรัฐบาล โดยลงนามอนุมัติเมื่อวันที่ 9 มี.ค. 52 เวลาประมาณ 12.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น (ตรงกับเที่ยงคืนของวันที่ 9 มี.ค. 52 ตามเวลาในประเทศไทย)